หลายท่านพยายามมองหา ธุรกิจที่น่าสนใจ จนลืมไปว่าสิ่งแรกที่ต้องทำไม่ใช่การแสวงหากูรูหรือเข้าคอร์สอบรมอาชีพ แต่สิ่งที่ต้องทำคือการสำรวจตัวเองว่าเรามีศักยภาพที่เพียงพอในการทำธุรกิจหรือยัง
เรามีเครื่องมืออะไรแล้วบ้าง และเรายังขาดอะไรอีกบ้าง ศักยภาพมีหลายอย่างทั้งภายในและภายนอก มาดูกันว่าก่อนจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องเตรียมความพร้อมด้านใดบ้าง
1. ความพร้อมด้านทัศนคติของตัวเอง
ความคิดมันเกี่ยวอะไรกับความสำเร็จทุกคนคงพอจะเคยได้ยินมาบ้าง พูดง่ายๆคือถ้าคิดว่าทำได้ ธุรกิจก็ดำเนินไปได้ เพราะเมื่อคนเราใจสู้ ไม่ว่าปัญหาจะหนักหนาแค่ไหนก็จะมองเห็นทางออกอยู่ตลอดเวลาไม่มัวไปเสียเวลาคิดแต่ว่าเราทำไม่ได้ๆ
อย่างนี้เค้าเรียกว่าแพ้ตั้งแต่ความคิด หากยิ่งกลัวจะไม่ประสบความสำเร็จ ยิ่งต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เตรียมตัวให้พร้อมทุกด้าน ไม่ใช่เลิกทำตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น
ความผิดพลาด เป็นเรื่องธรรมดามากๆที่จะเกิดขึ้น หากทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วแต่ยังเกิดข้อผิดพลาด ไม่ต้องไปนั่งเสียใจโทษฟ้าดินหรือสิ่งรอบข้างค่ะเสียเวลาเปล่าๆ ทำใจให้เร็วให้เร็ว ยอมรับ เรียนรู้มันแล้วเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ การที่เราล้มเหลวไม่เลวร้ายเสมอไป อย่างน้อยก็เป็นบทเรียนว่าถ้าทำแบบนี้ก็จะเกิดผลแบบนี้ คราวหน้า เราก็จะได้ไม่เดินผิดทางอีก
2. ความพร้อมด้านข้อมูล
คือทำการบ้านมาก่อนนั่นเองว่า ธุรกิจที่เราจะทำนี้กลุ่มลูกค้าคือใคร ความต้องการของตลาดดีมั้ย คู่แข่งเยอะหรือไม่ เป็นสินค้าniche market หรือ mass market ถ้าเป็นสินค้าใหม่จะเข้าตลาดได้ยากง่ายแค่ไหน ทำเลดีหรือไม่ เป็นต้น
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องถูกสำรวจไว้หมดแล้ว และต้องมีความเป็นไปได้ที่จะได้กำไร ไม่ใช่ว่าลองๆทำดูก่อนเกิดผลเสียค่อยแก้ทีหลัง การคิดแบบนั้นก็เสี่ยงเกินไป เมื่อลงมือทำธุรกิจจริงหากเราไม่ได้ทำการบ้านมาดีพอ มันอาจจะทำให้เราเสียทั้งทุน เสียทั้งเวลา แถมเพิ่มความเครียดอีก
3. ความพร้อมทางด้านการเงิน
อันนี้เป็นความพร้อม Basic เลยค่ะ แน่นอนอยู่แล้วว่าถ้าไม่มีเงินทำธุรกิจอะไรก็ไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ “ความสามารถในการบริหารเงินก้อน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากค่ะ มีหลายคนนะเอาเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตเพื่อลงทุนธุรกิจ แต่เมื่อบริหารเงินไม่ดีพอ ขาดศักยภาพหลายด้าน หรือรวมทั้งเจอพิษเศรษฐกิจเข้าไป เงินก้อนที่สะสมมาทั้งชีวิตกับธุรกิจที่เคยฝันกลับสลายหายไปต่อหน้าต่อตา
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องทำการบ้านให้ดีก่อนทำธุรกิจ เพราะถ้าพลาดขึ้นมาเจ็บของจริงค่ะ”
4. ความพร้อมเรื่องการบริหารงาน
การทำธุรกิจส่วนตัวเราจะต้องลุยเอง ทำเองทุกทุกขั้นตอน ไม่เหมือนงานประจำนะคะ ที่เรารับผิดชอบแค่หน้าที่ของเราก็พอ จบแล้วโอนไปให้ฝ่ายอื่นทันที หรือเมื่อมีปัญหาก็เรียกหัวหน้ามาดูให้ อาจจะโดนด่าหน่อยแต่เค้าก็แก้ปัญหาให้ตลอด
พอมาเป็นธุรกิจส่วนตัวแล้ว ไม่ว่าจะขั้นตอนไหน ปัญหาตรงจุดไหน เล็กหรือใหญ่ เราต้องรับผิดชองเองทั้งหมด จะทำแบบส่งๆไปก็ไม่ได้ ฉะนั้น สิ่งที่เราควรมีคือทักษะต่างๆไม่ว่าจะเป็น การแก้ปัญหา การเจรจาต่อรอง การคิดต้องให้รอบคอบและรอบด้าน ไม่เอาอารมณ์หรือความขี้เกียจเป็นที่ตั้ง ต้องรู้จักใจเย็น อดทน มองการณ์ไกล ทันคน มีวินัย มีความเสมอต้นเสมอปลาย เป็นต้น
5. การบริหารคน
หากคุณมีลูกน้อง โจทย์ที่หินที่สุดสำหรับการทำธุรกิจก็คือการบริหารลูกน้องนี่แหละค่ะ ไม่เชื่อก็ลองถามคนที่ทำธุรกิจมาก่อนดูสิ มีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน กว่าจะหาคนที่เชื่อใจได้จริงๆยากมากๆ ถ้าลูกน้องไม่กี่คนก็มีปัญหาลาออกบ่อยบ้างล่ะ โกงบ้างล่ะ ลูกน้องชาวต่างชาติสื่อสารไม่เก่ง หรือเจอลูกน้องเก่งก็ลาออกไปทำงานที่เงินเดือนเยอะกว่า
ยิ่งลูกน้องหลายคนยิ่งมีปัญหา เอาแต่เม้ามอยจับกลุ่มนินทาบ้าง จับกลุ่มกันอู้บ้าง เกลียดเจ้านายบ้าง ทะเลาะกันเองบ้าง โอ๊ยสารพัดปัญหาที่จะเจอเลยค่ะ เจ้าของธุรกิจทั้งหลายเตรียมรับมือไว้ได้เลย