อัพเดทล่าสุด
หน้าแรก / ธุรกิจออนไลน์ / เทคนิคเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจออนไลน์ กับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ

เทคนิคเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจออนไลน์ กับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ

การค้าขายในโลกออนไลน์มีบทบาทและความสำคัญมากเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพราะเป็นการซื้อขายที่มีความสะดวก รวดเร็ว โดยโลกออนไลน์นั้น เปรียบเสมือนจุดนัดพบและติดต่อค้าขายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งจะเห็นได้จากกลุ่มผู้ผลิต แม่ค้า พ่อค้า ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก ค้าส่ง ก็ใช้ช่องทางออนไลน์ในการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค เนื่องจากช่องทางดังกล่าวสามารถขยายฐานของลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมและอาจจะขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

ดังนั้นในปัจจุบันไม่ว่าจะอยากขายสินค้า หรือแนะนำสินค้า ก็สามารถทำได้ในโลกออนไลน์ โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นสินค้าประเภทไหน ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน และลูกค้าก็ไม่ต้องเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง

ช่องทางออนไลน์จะช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อของชิ้นนั้นได้อย่างง่ายๆ เพียงคลิกและเลือกซื้อสินค้าจากร้านต่างๆที่มีอยู่มากมาย จึงทำให้เกิดการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากในปัจจุบันเพราะฉะนั้นตัวร้านค้าเอง จำเป็นต้องมีเทคนิค วิธีการ และเคล็ดลับ เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้าน สำหรับบทความนี้ ผู้เขียนจึงอยากแนะนำสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ในการเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจบนโลกออนไลน์ หากเจ้าของธุรกิจท่านใดที่มีร้านค้าออนไลน์อยู่ คงต้องศึกษาเพื่อเป็นแนวทางไปปรับใช้แล้ว

สารบัญ

10 สิ่งที่ควรทำ กับการเพิ่มยอดขายในโลกออนไลน์

1. มีช่วงเวลาที่ยืดหยุ่นสำหรับลูกค้า

ในปัจจุบันที่การค้าขายในโลกออนไลน์ได้รับความนิยม ทำได้ง่ายและสะดวก รวดเร็ว ทำให้หลายคนเลือกการค้าขายเป็นอาชีพอิสระหรือเป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน ดังนั้นช่วงเวลาในการทำงานจำเป็นต้องจัดสรรเวลาให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นขายของ หรือตอบลูกค้าและเวลาที่ผู้คนให้ความสนใจในการซื้อขายของออนไลน์มากที่สุดคือ 8:00 น., 11:00 น., 13:00 น. และ 22:00 น. ดังนั้น การขายสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้ผลตอบลัพธ์ที่ดีอีกด้วยแต่ทางที่ดี การขายของออนไลน์ เราควรจะพร้อมสำหรับลูกค้าเสมอไม่ว่าจะช่วงเวลาใดยิ่งมีการตอบกลับลูกค้าเร็วเท่าใด โอกาสในการขายได้ก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณต้องให้ความสำคัญกับร้านค้าออนไลน์ของคุณมาเป็นอันดับแรกๆ และเลือกที่จะตั้งใจทำเป็นอาชีพหลัก หากต้องการสร้างรายได้หลักจากตรงนี้ไม่เช่นนั้นแล้ว ด้วยเวลาและการทำงานที่จำกัด จะส่งผลต่อยอดขายและลูกค้าที่เข้ามาได้

2. แสดงความน่าเชื่อถือบนช่องทางการขาย

เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าสินค้าหรือบริการของร้านคุณมีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากลูกค้า โดยคุณควรแสดงสิ่งเหล่านี้บนช่องทางการขายของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ เพจ หรืออินสตราแกรม ซึ่งสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ก็คือการรีวิวสินค้า เพราะการรีวิวจากผู้ใช้งานจริง จะมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าท่านอื่นอย่างมาก และคุณควรนำวิธีการนี้มาใช้ จากนั้นก็นำผลตอบรับจากลูกค้ามาแสดงบนหน้าเว็บไซต์และหน้าเพจ เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าสินค้าคุณดีอย่างไร ลูกค้าพึงพอใจมากแค่ไหนทำไมถึงควรใช้สินค้าของคุณ นอกจากนี้การแสดงความน่าเชื่อถือ ยังรวมถึงการได้รับรางวัลการได้รับการยอมรับจากองค์กรใหญ่หรือคำชมเชยจากลูกค้าระดับสูงหรือบุคคลสำคัญ

3. ระบุราคาให้ชัดเจน

การระบุราคาให้ชัดเจนมักมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าอย่างมาก หลายร้านหรือหลายธุรกิจ ไม่ควรมองข้ามในจุดนี้ เพราะการที่ไม่ระบุราคา เพื่อต้องการให้ลูกค้าสอบถาม โดยหวังจะได้พูดคุยกับลูกค้าและมองหาโอกาสในการขายอาจกลายเป็นว่าลูกค้าไม่รู้สึกอยากซื้อ แม้จะเห็นและมีความสนใจ แต่เมื่อทางร้านไม่ระบุราคาให้ชัดก็จะมองข้ามไปทันที เพราะหากต้องมาถามราคาอีกลูกค้าจะรู้สึกเสียเวลาและยิ่งสินค้าชิ้นดังกล่าวราคาสูงกว่าที่คิดด้วยแล้ว ร้านก็ยิ่งหมดโอกาสในการขาย

4. ช่องทางการชำระเงินหลากหลาย

การให้บริการในการชำระเงินที่สะดวก หลากหลายช่องทาง สามารถทำให้การซื้อขายดีขึ้น ยอดขายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลายท่านอ่านแล้วอาจจะยังไม่เชื่อแต่หากลองสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าแล้วนั้น การซื้อขายออนไลน์มักเน้นความสะดวก รวดเร็ว หากช่องทางในการชำระเงินไม่เพียงพอล่าช้า ลูกค้าก็อาจจะไปซื้อสินค้าชนิดเดียวกันแต่เป็นของร้านอื่นได้ โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่ลูกค้ามักนิยมชำระเงินปลายทางมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจจริงๆว่าได้รับสินค้าที่สั่ง ถึงจะยอมจ่าย ซึ่งหากร้านออนไลน์ร้านใดไม่มีบริการนี้ ก็อาจเสียลูกค้าไปได้ง่ายๆค่ะ เพราะแม้แต่ไปรษณีย์ไทย ก็ได้เปิดให้บริการเก็บเงินปลายทางแล้วเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวให้ทันลูกค้า ทันกระแสเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูความเหมาะสมของสินค้าและวิธีการจัดการของร้านด้วย

5. จัดส่งฟรี

 หลายธุรกิจออนไลน์นอกจากจะแข่งกันด้วยสินค้าและบริการแล้ว เรื่องของการจัดส่งก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่หลายร้านพยายามใช้กลวิธีที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุดและต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ามากกว่า ซึ่งในความรู้สึกของลูกค้านั้น ร้านไหนที่ระบุว่า “จัดส่งฟรี” ลูกค้ามักจะสนใจมากกว่า เพราะเหมือนจ่ายแค่ยอดเดียว แต่หากมีค่าจัดส่งก็ต้องบวกเพิ่มเข้าไปอีก เลยทำให้รู้สึกว่าจ่ายหลายยอด โดยเทคนิคที่ร้านควรทำคือ การตั้งราคาสินค้าที่รวมค่าส่งแล้วหรือจัดส่งฟรีแบบลงทะเบียนหรือจะเป็นโปรโมชั่น ซื้อ 3 ชิ้นขึ้นไป จัดส่งฟรีหรือซื้อครบ 500 บาทส่งฟรี ยังไงก็ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะ

6. การันตีคืนเงิน

การการันตีคืนเงินและการรับเปลี่ยนสินค้าภายใน 7 หรือ 14 วัน จะช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านคุณได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ที่อาจกลัวว่าจะไม่ได้รับสินค้าหรือได้รับสินค้าที่ชำรุดเสียหายหรือผิดจากที่สั่ง ซึ่งการการันตีก็เหมือนเป็นการรับประกันให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่า ร้านของคุณมีจริง ส่งสินค้าจริง ไม่หลอกลวง

7. บริการหลังการขายที่ดี

เป็นสิ่งหนึ่งที่ธุรกิจร้านค้า ผู้ประกอบการ ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ รายย่อย ต้องให้ความสำคัญ เพราะส่วนมากธุรกิจ ต่างก็มุ่งเน้นในเรื่องของยอดขายเป้าหมายในการขายแต่ละวัน แต่ละเดือน หรือปี รวมถึงเน้นในเรื่องของการทำการตลาด เพื่อเพิ่มและขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น กลับกัน เรื่องการบริการหลังการขายหลายร้านอาจจะมองข้ามหรือไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าใดนัก ซึ่งจริงๆ  แล้วการบริการหลังการขายถือว่าเป็นตัวชี้วัดและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ร้านและสินค้าเลยก็ว่าได้ เพราะการบริการหลังการขายที่ดีจะช่วยสร้างความมั่นใจ ความไว้วางใจแก่ลูกค้าและเกิดการกลับมาซื้อซ้ำ เช่น การพูดคุยสอบถามถึงสินค้าที่ลูกค้าได้รับ การให้สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าประจำหรือลูกค้าที่ซื้อในจำนวนมาก ช่วยเสนอทางแก้ปัญหา หากเกิดข้อผิดพลาดในการส่งสินค้าหรือตัวสินค้า

8. มีเว็บไซต์ ก็ต้องรู้จักใช้โฆษณา Google

การทำโฆษณาให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณจะช่วยให้คุณมีลูกค้าและยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งหากคุณมีเว็บไซต์ คุณจำเป็นต้องทำ SEO (Search Engine Optimization), SEM (Search Engine Marketing) และทำโฆษณาผ่าน Google Adwords เพื่อที่คุณจะได้เก็บข้อมูล วัดผลและนำไปวิเคราะห์เกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าให้ตรงตามเป้าหมายสำหรับยอดขายที่คุณตั้งไว้ และถึงแม้คุณจะจ่ายเงินทำโฆษณาให้เว็บในจำนวนที่มากแต่เนื้อหาหรือ Content บนเว็บไม่มีประโยชน์หรือไม่เกี่ยวข้องกับสินค้า ลูกค้า ก็จะส่งผลต่อคะแนน ต่อการติดอันดับของเว็บ สุดท้ายแล้วลูกค้าก็จะไม่รู้จักคุณ เพราะฉะนั้นนอกจากจะต้องรู้จักใช้โฆษณา Google แล้ว การทำเนื้อหาบนเว็บให้ดี นำเสนอสิ่งที่ดี และข้อมูลที่เป็นความจริง ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ

9. นอกจากเว็บไซต์ ต้องมีไว้อีกหลายช่องทาง

หากคุณมีหลายช่องทางสำหรับร้านออนไลน์ของคุณ โอกาสในการเพิ่มยอดขายและลูกค้าก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งในแต่ละช่องทางก็ต้องมีการนำเสนอข้อมูลที่แตกต่างกันไป ตามรูปแบบที่เหมาะสมเช่น เว็บไซต์ ที่คุณสามารถนำเสนอสินค้าได้ทุกแบบ เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ตามใจชอบและอาจจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับประโยชน์ของสินค้าแต่ละชนิดเอาไว้ด้วย ส่วนเพจ ควรจะเน้นไปที่การนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นความรู้เสียส่วนใหญ่ โดยต้องเกี่ยวเนื่องกับสินค้าที่ขาย อาจจะทำในรูปแบบของรูปภาพ วิดีโอ หรือภาพประกอบเนื้อหา เพื่อให้เกิดการเข้าถึงและมีส่วนร่วม  รวมถึงช่องทางอื่นๆ ทั้งอินสตราแกรม ที่เหมาะกับการนำเสนอเป็นภาพ, ทวิตเตอร์ เป็นข้อความ, ยูทูป เป็นวิดีโอ และไลน์แอด เป็นได้ทั้งข้อความและภาพที่เน้นไปที่การประชาสัมพันธ์ การแจ้งให้ทราบ

10. เพิ่มกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการขาย

กลยุทธ์ในการขายนั้นสำคัญมาก เพราะร้านค้าออนไลน์มักมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นในการขาย เราจะต้องมีกลยุทธ์ในการเรียกลูกค้า เช่น จัดโปรโมชันคืนกำไรแก่ลูกค้า สะสมแต้มรับสินค้าฟรี หรือเป็นส่วนลด หรือจะซื้อสินค้าชิ้นนี้ แถมสินค้าอีกชิ้น ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ถือเป็นข้อได้เปรียบ ทำให้ร้านของคุณมีความน่าสนใจ น่าติดตาม อีกทั้งการมีกลยุทธ์เหล่านี้ ยังช่วยกระตุ้นยอดขาย และเป็นการโปรโมทร้านของคุณไปในตัว

หลังจากที่แนะนำสิ่งที่ควรทำ ทั้ง 10 ข้อกันไปแล้ว สำหรับการเพิ่มยอดขายของธุรกิจในโลกออนไลน์ ผู้เขียนก็มีอีก 10 ข้อเหมือนกัน ที่ไม่อยากแนะนำให้ทำค่ะ เพราะในขณะที่เรามีสิ่งที่ควรทำ เพื่อเพิ่มยอดขาย กลับกัน สิ่งที่ไม่ควรทำ หลายร้านอาจจะกำลังทำอยู่โดยไม่รู้ตัว และส่งผลให้ยอดขายลดลง หรือไม่ตรงตามเป้า มาค่ะ มาดูกันว่า 10 ข้อนั้นมีอะไรบ้าง

10 สิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะอาจลดยอดขายในโลกออนไลน์

1. ไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า

 สิ่งแรกที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเลยก็คือ ความไม่ซื่อสัตย์ ไม่ว่าคุณจะขายสินค้า หรือบริการอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์ ที่ลูกค้าไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าคุณมีตัวตนจริงหรือไม่ จะโดนหลอกไหม เพราะการโกงราคา โกงสินค้า เป็นเรื่องง่ายมาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณสามารถทำได้คือสร้างความไว้ใจ ความน่าเชื่อถือ ความจริงใจ และซื่อสัตย์ พูดความจริงกับลูกค้าเสมอ และแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ พร้อมกับเสนอแนวทางแก้ไข หากลูกค้ามีปัญหา

2. ตั้งราคาสูงเกินไป            

การตั้งราคาที่สูงเกินมาตรฐาน หรือโดดจากร้านคู่แข่งมากเกินไป นอกจากจะไม่เพิ่มยอดขายให้ร้านคุณแล้ว อาจจะขายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะสินค้าที่หาได้ทั่วไป หรือมีร้านออนไลน์อีกจำนวนมากขายเหมือนกัน แต่หากสินค้าคุณเป็นสินค้าที่มีเฉพาะร้านของคุณเอง การตั้งราคาก็ควรเป็นไปตามจริง เหมาะสมกับคุณภาพของสินค้า ให้ลูกค้ารู้สึกว่าจ่ายราคานี้ แล้วคุ้มค่าที่จะจ่าย ซึ่งคุณก็ต้องดูกลุ่มลูกค้ากับสินค้าของคุณด้วย

3. โฆษณาเกินจริง

 การโฆษณาที่โอเวอร์เกินจริง จะส่งผลเสียให้กับร้าน และตัวสินค้าได้ เพราะลูกค้าจะมองว่าคุณเข้าข่ายหลอกลวง ไม่จริงใจ ไม่ซื่อสัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกค้าได้มีการซื้อ และใช้สินค้านั้นๆแล้ว แต่ไม่เป็นไปตามที่คุณกล่าวอ้างอย่างที่โฆษณาไว้ ร้านของคุณก็อาจถูกแบนได้เลย เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการจะทำโฆษณาให้กับร้านและสินค้า ต้องคำนึงอยู่เสมอว่า ควรแสดงความจริงใจ และอยู่บนหลักพื้นฐานความจริง

4. จำกัดเวลามากเกินไป

การขายของบนโลกออนไลน์คุณควรขยันและมีเวลาที่ยืดหยุ่นมากๆ แม้ว่าคุณอาจจะพอคาดการณ์ได้ว่า ลูกค้าเข้ามาช่วงเวลาไหนมากที่สุด แต่บางครั้งเวลาที่เราละเลย ก็อาจจะมีลูกค้ารายใหญ่ สั่งสินค้าหลายชิ้นเข้ามาก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณควรมีเวลาสำหรับร้านค้าออนไลน์ของคุณให้มากที่สุด ไม่ควรปล่อยให้ลูกค้ารอนาน

5. แสดงความไม่พอใจในการคุยกับลูกค้า

 เข้าใจว่าหลายครั้งที่คุณต้องรับมือกับลูกค้าหลายรูปแบบ ทั้งพูดง่าย พูดยาก พูดไม่เข้าใจ หรือบางคนก็มาแบบทีเล่นทีจริง เหมือนจะสั่งแต่ไม่สั่ง หรือสั่งแล้วไม่โอนเงิน สั่งแล้วเงียบ ซึ่งในแต่ละครั้งคุณควรรับมืออย่างใจเย็น ไม่ว่าลูกค้าจะมารูปแบบไหนก็ตาม แม้บางครั้งรู้สึกเกินทน หรือไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็ควรหยุดการโต้ตอบ และปล่อยเวลาให้ผ่านไปสักพัก หรือเลือกที่จะพูดตัดบทสนทนาไปเลยก็ได้ คุณควรคิดไว้เสมอว่า ต้องหลีกเลี่ยงการพูดจาแบบรุนแรง และใส่อารมณ์ ไม่ควรให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณกำลังไม่พอใจ เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งคุณและร้านจะได้รับความเสียหายมากที่สุด

6. ความรู้ในตัวสินค้าเป็นศูนย์

สินค้าจะดีแค่ไหน หากคุณไม่มีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าเลย ก็ส่งผลต่อยอดขายได้เหมือนกันนะคะ ลูกค้าหลายท่านนั้น ต้องการทราบข้อมูลสินค้าอย่างละเอียด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อ ซึ่งข้อมูลของสินค้าที่คุณระบุบนเว็บ หรือเพจ อาจจะไม่ครอบคลุม หรือตอบคำถามที่ลูกค้าอยากทราบได้ และเมื่อลูกค้าสอบถามเข้ามา แต่คุณไม่สามารถตอบได้ ไม่มี ไม่หาข้อมูลใดๆ เพื่อช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้าหมดความไว้ใจ และท้ายที่สุดก็ไม่ซื้อสินค้าร้านคุณอีกเลย

7. ไม่ปรับเปลี่ยนตามกระแส

หากคุณไม่รู้จักพัฒนา ปรับปรุงสินค้าให้ทันสมัย ทันกระแสบ้าง ก็อาจมีผลต่อยอดขายได้นะคะ เพราะพฤติกรรมของลูกค้ามักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด คุณคงรู้ไม่ได้ทั้งหมด ว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่คุณสามารถติดตามเทรนด์ หรือกระแสสังคมได้ ว่ามีทิศทางอย่างไร ตอนนี้อะไรกำลังอยู่ในความนิยม ซึ่งการปรับเปลี่ยนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสินค้าด้วยนะคะ เพราะสินค้าบางชนิด คงไว้ที่รูปแบบเดิมนั้นดีอยู่แล้ว

8. ตามกระแสมากเกินไป

ไม่ปรับเปลี่ยนก็ไม่ดี เปลี่ยนมากไปก็ไม่ดี เพราะการตามกระแสนั้นคุณต้องดูด้วยว่าคุณอยู่ส่วนไหนของกระแสนั้น หากคุณมั่นใจว่าเร็วกว่าใคร คุณจะกลายเป็นผู้นำ และสามารถสร้างยอดขายได้มากมาย แต่หากคุณมาช้าไปกระแสเริ่มซาแล้ว โดยที่คิดว่าสินค้านี้ยังอยู่ในกระแส คุณก็ต้องยอมรับกับผลที่ตามมาคือการตัดราคาและยอดขายตก

9. ส่งสินค้าล่าช้า

การส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว ถึงมือลูกค้าภายในไม่กี่วัน จะยิ่งช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างดี ร้านคุณก็จะได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นในคุณภาพ กลับกัน หากคุณไม่ใส่ใจ จนส่งสินค้าล่าช้า เพราะเกิดการดองสินค้าหลายวัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ลูกค้าจะหมดความเชื่อมั่นทันที เว้นแต่คุณได้มีการแจ้งกับลูกค้าในบางกรณี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ร้านควรระบุวัน เวลาในการส่ง บริการที่ใช้ และวันที่ลูกค้าจะได้รับ รวมถึงขั้นตอนการจัดส่ง ที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้

10. ไม่มีความใส่ใจเท่าที่ควร

 แม้แต่ความใส่ใจเล็กๆน้อยๆ ก็สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบรรจุภัณฑ์สินค้า หรือหีบห่อ ควรทำให้ดี ให้เรียบร้อย ยิ่งเป็นสินค้าที่ต้องระวังเรื่องโดนแรงกระแทกด้วยแล้ว ยิ่งต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษค่ะ ซึ่งหากคุณมองข้ามเรื่องนี้ ที่คุณคิดว่าไม่สำคัญ ก็จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณไม่ใส่ใจ ไม่เต็มใจจะบริการ และทำให้ไม่อยากมาอุดหนุนร้านคุณอีกเลย

ไม่ว่าจะธุรกิจแบบไหน หรือขนาดเท่าใด ต่างก็ใช้ช่องทางออนไลน์ในการขายสินค้า ขยายกิจการ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้ากันเพิ่มมากขึ้นจริงๆค่ะ ดังนั้น สิ่งที่ผู้เขียนได้แนะนำไป ทั้ง 10 สิ่งที่ควรทำ และ 10 สิ่งไม่ควรทำ สำหรับยอดขายในโลกออนไลน์ อย่าลืมนำไปปรับใช้กันด้วยนะคะ อะไรที่ทำดีอยู่แล้ว ก็ทำต่อไป แต่อะไรที่ไม่ดี และมีผลต่อยอดขาย ก็ต้องลองปรับปรุงเพื่อให้ดีขึ้นค่ะ

advertisement

About Admin

"สยามอาชีพ" อาชีพเสริม สร้างอาชีพ สร้างรายได้

Leave a Reply

Your email address will not be published.