อัพเดทล่าสุด
หน้าแรก / บทสัมภาษณ์ / มารู้จักกับกุ๊กเทวดา ที่มาของสูตรอาหาร เมนูเด็ดสารพัดอาหารที่แม่สอน

มารู้จักกับกุ๊กเทวดา ที่มาของสูตรอาหาร เมนูเด็ดสารพัดอาหารที่แม่สอน

หากเราจะต้องเข้าครัวทำอาหาร หลายๆ คนอาจจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะบางคนตั้งแต่เกิดมาเพียงแค่ทอดไข่เจียวยังไหม้เลย แต่วันนี้ สยามอาชีพ.คอม ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับกุ๊กเทวดา คุณ คริษฐ์ เกตุแค เจ้าของสูตรอาหารหลากหลายเมนูเด็ด ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน ที่จะทำให้การทำอาหารของคุณ กลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกทุกครั้งเมื่อต้องเข้าครัวค่ะ

ผู้คนในยุคปัจจุบันนี้ หลายคนไม่ค่อยให้ความสนใจในการหุงหาอาหาร เพราะต้องรีบเร่งในการทำงานหรือการเรียน แต่คุณรู้หรือไม่ ว่าการทำอาหารเพื่อรับประทานเองนั้น มีส่วนช่วยให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะความสะอาดในการเลือกสรรค์วัตถุดิบและขั้นตอนในการปรุงอาหารด้วยตัวเอง ดิฉันเชื่อว่าคุณพ่อบ้านแม่บ้านหลายคน ต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาดและสุขภาพของโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอน

บทสัมภาษณ์ “กุ๊กเทวดา” เพจอาหารที่แม่สอน

วันนี้ สยามอาชีพ จะขอพูดถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่นชอบในการทำอาหาร และมีความสุขทุกครั้งที่ได้นำเสนอเมนูต่างๆ เพื่อที่จะให้เพื่อนๆ ได้นำไปลองทำกันอย่างไม่หวงสูตร ซึ่งหลักการ คำสอน และการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขเช่นนี้ ช่างน่าอิจฉาผู้ชายคนนี้จริงๆ ค่ะ เพราะในปัจจุบันนี้หลายคนพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะต้องได้มาซึ่งเงินทองหรือของมีค่ามากมาย จนลืมไปแล้วว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ตรงไหน ซึ่งบางครั้ง ความสุขอาจจะไม่ใช่การมีเงินทองหรือต้องร่ำรวยกว่าคนอื่น

กุ๊กเทวดา

แต่ความสุขที่แท้จริง อาจจะเป็นแค่เพียงการที่เราได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวหรือคนที่เรารักอย่างอบอุ่น การมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีหนี้สิน มีชีวิตพอกินพอใช้  ซึ่งการทำอาหารก็เป็นอีกหนึ่งความสุขเล็กๆ ที่ช่วยเติมเต็มความสุขและความอบอุ่นในครอบครัวได้ เพียงเท่านี้ชีวิตของเราก็หาความสุขได้ไม่ยากเลยค่ะ

วันนี้เราจะไปดูบทสัมภาษณ์กุ๊กท่านหนึ่ง ที่มีความชื่นชอบในการทำอาหารและมีความสุขที่ได้แบ่งปันสูตรอาหารหรือเมนูต่างๆ ที่เค้าทำมา เพื่อที่จะให้เพื่อนๆ ได้นำเคล็ดลับความอร่อยทั้งหมดนี้ไปลองทำกันค่ะ เราไปดูบทสัมภาษณ์กันดีกว่าค่ะ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

เริ่มต้นบทสนทนา กุ๊กเทวดา เพจอาหารที่แม่สอน

Question :  ทำไมถึงได้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอนค่ะ

Answer :  จริงๆ แล้ว เพจนี้ทำขึ้นมาแค่รวมเมนูที่ทำเอง ไม่ได้เปิดรับเป็นสมาชิคอะไรเลย แค่ใครก็ได้ที่จะเข้ามาดู ใจนึงคิดว่า จะเก็บไว้ดูเผื่อว่าจะมีโอกาสได้เปิดร้านเล็ก ๆ

Question :  คือว่า อาหารที่พี่นำมาโพสต์ ยังมีคนไม่มากที่เห็นสูตรอาหารนั้นๆ ซึ่งหนูคิดว่า พี่เป็นคนดีมากๆ ที่เผยแพร่สูตรอาหารให้คนนับพันได้นำไปลองทำ พี่มีความรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ

Answer :  ก็ขอขอบคุณครับ เราไม่หวง เพราะการทำอาหารสามารถดัดแปลงได้ตลอดเวลา ผมเองไม่ได้จบด้านอาหารหรือเคยทำงานด้านอาหารแต่อย่างใด อาหารที่ผมทำก็ดัดแปลงตามความสะดวกหรือคิดเองบ้าง ซึ่งเราทำกันเองแบบง่าย ๆ ครับ

Question :  ปัจจุบันพี่ทำงานประจำเกี่ยวกับอะไรค่ะ

Answer  :  งานประจำของผมคือเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่อยุธยาครับ ตำแหน่งผู้จัดการ ฝ่ายคุณภาพ โรงงานฉีดพลาสติก

Question :  ไม่ทราบว่าพี่มีชื่อ-นามสกุลจริงว่าอะไรค่ะ และมีชื่อเล่นว่าอะไรค่ะ

Answer : ชื่อจริง คือ คริษฐ์ เกตุแค ( อ่านว่า คะ-ริด )  ชื่อเล่น นพ ครับ ส่วนชื่อ มานพ คือชื่อเก่า ผมเลยใช้ตั้งเป็นชื่อเฟสครับ

Question :  แล้วพี่นพมีเวลาว่างในช่วงไหนบ้างค่ะ ที่ได้เข้าครัวทำอาหาร

Answer :  ทำแทบทุกวันในตอนเย็นและเช้า – เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุด และกรณีงานเลี้ยงหรือเวลาไปเที่ยวกัน ผมก็จะเป็นพ่อครัวให้ก๊วนเพื่อน หรือเวลากลับบ้านผมก็จะเป็นคนทำอาหารให้พี่น้องในครอบครัวรับประทานครับ

Question :  หมายความว่าคนที่ทำกับข้าวส่วนใหญ่ก็คือพี่นพใช่มั้ยค่ะ แล้วแฟนพี่นพทำอาหารด้วยรึป่าวค่ะ

Answer  :  เราทำคนละแนวครับ แฟนผมจะเก่งอาหารอีสาน เคยเป็นแชมป์ส้มตำ 2 สมัยส้มตำ และร้านอาหารที่สุพรรณ เธอเคยเปิดร้านอาหารอีสาน

Question :  ในอนาคตมีความคิดจะเปิดร้านอาหารกันบ้างมั้ยค่ะ เพราะรู้สึกว่าพี่นพกับแฟนจะทำอาหารเป็นเกือบทุกอย่างเลยจริงๆ

Answer :  คิดครับ แต่ยังไม่ลงตัว เราอาจจะประยุกต์เก่งอ่ะครับ คนทำอาหาร แค่เห็นวิธีการและวัตถุดิบก็สามารถทำได้เลยครับ

Question :  พี่นพเป็นคนจังหวัดอะไรค่ะ

Answer :  จังหวัดชัยนาทครับ อำเภอมโนรมย์ครับ ถิ่นส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย เลิศล้ำด้วย วัฒนธรรม

Question :  แล้วทำไมถึงตั้งชื่อแฟนเพจว่าอาหารที่แม่สอน ขอทราบชื่อคุณแม่ด้วยได้มั้ยค่ะ

Answer :  คุณแม่ชื่อ มะลิ และคุณพ่อชื่อ ทองดี ที่บ้านเราเมื่อก่อนทำสวนส้มโอเป็นหลัก การทำสวนจะทำจนถึงเย็นและมืด ทำให้ไม่มีเวลาทำอาหาร พอตกเย็นมาจึงต้องเข้าครัวพร้อมแม่ ผมก็ได้เห็นคุณแม่ทำอาหารจึงได้จดจำมา แม่ก็จะคอยสอนเคล็ดลับในการทำอาหารให้ ซึ่งคุณแม่ก็มักจะใช้ให้ทำโน่นนี่ พลิก คน ใส่โน้นนี่อยู่เป็นประจำ การทำอาหารสิ่งสำคัญคือเคล็ดลับว่า เราจะทำอะไรตอนไหน ใส่อะไร กลิ่นแบบไหนที่เรียกว่าหอม รสชาติแบบไหนที่อร่อย รสชาติไหนเหมาะกับอาหารอะไร ห้ามใช้อันนี้กับอาหารนี้ ห้ามทำขั้นตอนนี้เมื่อใส่อันนี่หรืออันนั้นลงไป

Manop-Gatecare

ต้องรออันนี้ต้องใช้วิธีพลิกและห้ามคน ส่วนอันนี้คนได้ ก็จะประมาณนี้ครับ สมัยนั้นที่ทำได้ก็แค่ ไข่เจียวและก็ช่วยแม่ผัดพริกแกง ส่วนเรื่องการหั่นผักหรือเตรียม ก็เป็นงานที่ถูกใช้เป็นประจำอยู่แล้ว และอีกอย่างคือ ผมกับแฟน เราจะเรียกกันว่า “พ่อ – แม่” ซึ่งก็มีอาหารบางอย่างที่ผมเพิ่งทำเป็นเพราะแฟนสอน เช่น ส้มตำ ตำไทย เพราะเมนูเหล่านี้ผมไม่เคยทำมาก่อน แต่แฟนก็จะมาสอนว่าต้องทำยังไงผมเลยทำเป็นมาจนถึงทุกวันนี้ครับ และผมจะเรียกเธอว่าแม่ เลยถือว่าเธอก็สอนผมทำอาหารเช่นกัน เธอจึงมีรูปอยู่ในเพจด้วยครับ ซึ่งจะเห็นว่ามีรูปแม่ผม และแฟนผมถ่ายคู่กัน จึงเป็นที่มาของชื่อเพจ “อาหารที่แม่สอน” ครับ

Question :  พี่นพได้มีโอกาสเรียนรู้การทำอาหารจากคุณแม่นานแค่ไหนค่ะ

Answer :  ส่วนใหญ่จะดูคุณแม่ทำอาหารมากกว่า ตั้งแต่เป็นเด็ก อายุอาจจะประมาณ  7-8 ขวบจนถึง ปวช. 3 ไม่มั่นใจว่าอายุเท่าไรแล้ว ต่อมาเมื่อมาเรียนที่กรุงเทพฯ และมีครอบครัวผมก็มีโอกาสได้ทำบ้าง และด้วยความที่ชอบทำ เวลาไปทานอาหารก็จะจดจำ ว่าใส่อะไรบ้าง แล้วลองทำและปรับปรุง

แล้วนำมาประยุกต์กับอาหารที่แม่สอน พอทำบ่อยเข้าก็ดีเองครับ บางทีผมก็รับความรู้มาจากคนอื่นบ้างเช่น เมนูนี้ได้จากคนนี้ เมนูนี้ได้จากคนนั้น ทำนองนี้ครับ คนทำอาหารอร่อย จะต้องชิมเป็น แก้รสอาหารเป็น ว่ารสไหนอร่อย หรือรสนี้ควรแก้ด้วยรสอะไร ที่เหลือก็แค่ขั้นตอนในการทำครับ

Question :  ปัจจุบันพี่นพอายุเท่าไหร่ค่ะ คุณแม่ด้วยค่ะ ท่านอายุเท่าไหร่แล้วค่ะ

Answer :  ตัวผมอายุ 47  ปีครับ ส่วนคุณแม่อายุ 77 ปี

Question :  เมนูโปรดของพี่นพคืออะไรค่ะ

Answer : ที่ชอบทานและทำกินเองเป็นประจำคือ ผัดกะเพราหมู และเนื้อ เป็นเมนูที่แม่เลี้ยงจนโตมาเลยก็ว่าได้

Question :  หนูคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเพจอาหารที่แม่สอนต้องคิดว่าพี่นพเป็นเชฟแน่นอน เพราะหนูก็เป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนั้น พี่นพมีความรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ

Answer :  ก็อาจจะเป็นเพราะ เวลามีคนถามอะไรเข้ามาแล้วมีคำตอบให้เค้าหละมั้งครับ แต่ผมคิดแค่ว่าตัวเองเป็นแค่คนทำอาหารหรือกุ๊กแค่นั้นเองครับ อยากถามต่อด้วยมั้ยครับ ว่าทำไมผมถึงใช้ชื่อ “กุ๊กเทวดา”

Question :  ใช่เลยค่ะ กำลังอยากทราบอยู่พอดีเลย

Answer :  คือก๊วนเพื่อนของผม อายุก็เยอะแล้ว ซึ่งสมัยเด็ก ๆ มักจะดูหนังจีนกำลังภายใน ต่อมามียุคหนึ่งที่มีหนังเรื่อง “คนเล็กกุ๊กเทวดา” เพื่อนเลยเรียกผมว่ากุ๊ก และเห็นทำได้หลายอย่างเหมือนหมอเทวดา ซึ่งหมอเทวดาในสมัยก่อนนั้นจะรักษาโรคได้ทุกอย่างในหนังจีนกำลังภายใน เลยใช้ชื่อ “กุ๊กเทวดา” คือ ทำได้แทบทุกอย่าง จึงเป็นฉายาในก๊วนเพื่อนนั่นเองครับ

Question : พี่นพรู้ตัวเองตอนไหนค่ะ ว่าตัวเองเป็นคนชื่นชอบการทำอาหาร เพราะในสมัยเด็กๆ คงมีเด็กน้อยคนมาก ที่จะชอบเข้าครัวไปดูแม่ทำกับข้าว

Answer : ก็คงจะประมาณตอนอายุ 30 ครับ ซึ่งตอนเด็กเป็นภาวะบังคับมากกว่า เด็กต่างจังหวัดสมัยผมจะไม่ค่อยเถียง หรือขัดใจพ่อแม่ หากท่านใช้ให้ทำอะไรก็ต้องทำ ย้อนกลับมาคิดอีกที นั่นคือสิ่งดีที่เราได้มีโอกาสเป็นแบบนั้น ที่พ่อแม่ใช้เราทำงาน ทำงานบ้าน ทำงานไร่สวน วิถีคนชนบทครับ ไปที่ไหน ไม่อยู่นิ่ง ไปไหนก็มีคนรัก ไม่รังเกียจ จึงเป็นสิ่งดีๆ ที่ติดตัวมาครับ

Question : พี่นพคิดยังไงบ้างค่ะ กับผู้คนในยุคปัจจุบัน ที่มักจะมองว่าการทำอาหารเป็นเรื่องยาก

Answer : เขาแค่ ไม่รู้ และไม่เคยลอง และกังวลว่าจะออกมาไม่ดี การทำอาหารไม่มีใครเป็นเลิศไม่มีของใครดีของใครแย่ เพราะเราทำของเรา เพราะเราชอบ หากเขาทานแล้วบอกอร่อย แสดงว่าเขาทานเหมือนเรา รสเดียวกับเรา คนที่บอกไม่อร่อย เพราะเขาทานต่างรสจากเรา เราคงทำอาหารจานเดียว ให้อร่อยถูกใจทุกคนคงไม่ได้ ทำตามที่เราชอบและอร่อยก็พอ เว้นเสียแต่ว่าเขาบอกให้ทำ และเน้นรสอะไรเป็นหลัก ก็ทำตามที่เขาขอแค่นั้นพอครับ

Question : ในฐานะที่พี่นพเป็นกุ๊กคนนึงที่ชื่นชอบในการทำอาหาร พี่นพพอจะมีคำแนะนำสำหรับคนที่เริ่มต้นในการทำอาหารบ้างมั้ยค่ะ

Answer : กล้าที่จะลองเรียนรู้เคล็ดลับของวัตุดิบและขั้นตอนหรือหัวใจของอาหารแต่ละชนิด ส่วนที่เหลือก็อยู่ที่ศิลป์ของตัวเองครับ ที่พูดแบบนี้ความหมายคือ เราอย่าเปลี่ยนรูปลักษณ์หรือหัวใจของอาหาร เช่น แกงป่าใส่กะทิ นี่ก็ไม่ถูก หรือผัดกะเพราแต่ใส่ใบโหระพาหรือใส่ใบยี่หร่า อันนี้ก็ไม่ใช่ ส่วนอื่น ๆ ที่เราชอบก็เพราะนั่นคือสูตรของเรา เราทำทานเองไม่ได้ทำประกวดหรือสอบแข่งขันที่จะต้องทำให้ออกมาเป๊ะทุกอย่าง ความหมายของผมคือแบบนี้ครับ

Question : พี่นพมีความรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ ที่มีหลายคนชื่นชอบอาหารที่พี่นพทำ

Answer : ก็ดีใจมากครับ และภูมิใจที่การทำอาหารหรือการนำเสนอหรือแม้แต่เมนูใหม่ๆ ที่เราคิดแล้วนำมาประยุกต์เองมีคนสนใจ และเอาไปทำตามหรือต่อยอดทำเป็นอย่างอื่นครับ เพราะบางเมนูอาจจะทำขายเลยก็ได้

Question : ตอนนี้สูตรอาหารที่นำมาโพสต์ในเว็บไซต์หรือจากเพจอาหารที่แม่สอน เริ่มมีหลายเว็บที่ก็อปปี้บทความและวิธีการทำอาหารของพี่นพไป พี่นพรู้สึกอย่างไรค่ะ

Answer : การก๊อปปี้บทความไปใส่ในเพจหรือเว็บของตัวเอง ถ้าให้เครดิต ก็จะเหมาะสมนะครับ แต่ที่สุดแล้วหากไม่ได้เอาไปเป็นการค้าหรืออะไร ผมก็รู้สึกเฉยๆ ไปครับ เพราะเราเองก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร คนทำอาหารและแบ่งปันคนทำอาหารด้วยกัน ทำให้ผมมีความสุขครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับบทสนทนาดีๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณ คุณ คริษฐ์ เกตุแค ผู้ดูแลเพจอาหารที่แม่สอนเป็นอย่างมาก ที่ได้มาแชร์ประสบการณ์การทำอาหารให้พวกเราได้อ่านกัน ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ ท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะติดตามกุ๊กเทวดาท่านนี้ได้อย่างไร

ก็ลองกดเข้าไปตามลิ้งตรงนี้เลยนะค่ะ Manop Gatecare (กุ๊กเทวดา) ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน ซึ่งดิฉันเชื่อว่า ถ้าหากหลายๆ ท่านได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้ว จะต้องได้รับความรู้และทัศนะคติที่ดีในการทำอาหารเพิ่มขึ้นไม่น้อยอย่างแน่นอนค่ะ

บางครั้ง เรามองหา สิ่งที่ขาด จนเราพลาด สิ่งที่มี
และบางครั้ง ก็เฝ้าหา สิ่งที่ดี จนทำให้ สิ่งที่มี นั้นหายไป

สำหรับวันนี้ สยามอาชีพ อยากจะขอฝากคำกลอนสอนใจเพื่อเป็นคติธรรมดีๆ ในการใช้ชีวิตนะค่ะ ถ้าหากวันนี้คุณรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองหาความสุขไม่ได้ แล้วทำไมคุณไม่ลองมองกลับมาหาคนใกล้ตัวของคุณดูหละค่ะ เผื่อว่าบางทีความสุขของเรามันก็ไม่ได้หายได้ไหน เพียงแค่เราอาจจะมองไม่เห็นความสุขเท่านั้นเองค่ะ ขอให้ทุกคนดูแลพ่อแม่และคนที่คุณรักให้มีความสุขมากๆ นะค่ะ สวัสดีค่ะ

advertisement

About Admin

"สยามอาชีพ" อาชีพเสริม สร้างอาชีพ สร้างรายได้

2 ความคิดเห็น

  1. Pingback: ทำไอติมกะทินมสด หอมหวานมันอร่อยแบบไม่ต้องกลัวอ้วน ด้วยวิธีทำง่ายๆ!!

  2. Pingback: ทำไอติมกะทินมสด หอมหวานมันอร่อยแบบไม่ต้องกลัวอ้วน ด้วยวิธีทำง่ายๆ!! - Kaijeaw.com

Leave a Reply

Your email address will not be published.